
หลายคนคงเคยเป็นโรคอีสุกอีใสกันมาแล้ว แต่เคยทราบกันมั้ยคะว่า หลังจากที่เราหายจากโรคอีสุกอีใส เชื้อไวรัสอีสุกอีใสไม่ได้หายไปไหน แต่จะไปแฝงตัวหลบซ่อนอยู่ในปมประสาทภายในร่างกายของเรานี่เอง
และพอระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง เมื่อเรามีอายุมากขึ้น เป็นโรคเรื้อรัง หรือมีการใช้ยากดภูมิคุ้มกัน ไวรัสก็จะถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง แล้วทำให้กลายเป็นโรคงูสวัดขึ้นมา
อาการเริ่มแรกของโรคงูสวัดคือ เจ็บ ปวด และคันบริเวณผิวหนัง ตามมาด้วยมีผื่นแดง เป็นตุ่มน้ำ เป็นแผลพุพอง หลังจากนั้นผื่นก็จะแห้งตกสะเก็ดภายใน 2 - 4 สัปดาห์ แต่อาการปวดอาจจะยังคงอยู่เป็นเวลานานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนสูงอายุ
โดยปกติโรคงูสวัดจะเป็นตามแนวเส้นประสาทจากไขสันหลังเส้นใดเส้นหนึ่งเพียงเส้นเดียว เพราะฉะนั้นผื่นงูสวัดจะกระจายขึ้นแค่เฉพาะภายในบริเวณที่ถูกเลี้ยงด้วยเส้นประสาทเส้นนั้นๆเท่านั้น
งูสวัดขึ้นตา เกิดจากไวรัสที่แฝงตัวอยู่ในเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงดวงตาและผิวหนังบริเวณรอบดวงตา พบได้ประมาณ 15% ของคนที่เป็นงูสวัดทั้งหมด
การที่มีผื่นงูสวัดขึ้นที่บริเวณปลายจมูก จะเป็นสัญญาณว่ามีโอกาสสูงที่ไวรัสจะกระจายเข้าไปในดวงตาด้วย
ถ้าเชื้อไวรัสติดเชื้อเข้าสู่ดวงตา จะทำให้เกิดอาการเหล่านี้
- ผื่นบริเวณเปลือกตา - ตาแดง - กระจกตาการอักเสบ - ตามัว - ตาสู้แสงไม่ได้ - ปวดตา - ตาบวม
ในรายที่มีอาการรุนแรงมากๆ อาจทำให้กระจกตาเป็นแผลถาวรหรือกระจกตาทะลุได้ หรืออาจจะทำให้เกิดม่านตาอักเสบ จอประสาทตาบวม ความดันลูกตาสูงจนเป็นต้อหิน หรือเป็นต้อกระจกได้ในระยะยาว
อาการทางตาที่รุนแรงเหล่านี้อาจจะพบได้ไม่บ่อย แต่สามารถส่งผลทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นไปบางส่วนหรือตาบอดได้
คนไข้ควรได้รับการรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อไวรัส ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงและอาการแทรกซ้อนของโรคได้
คนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคงูสวัดคือ คนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป และความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นเยอะหลังจากอายุ 50 ปี ส่วนในคนที่มีอายุ 85 ปีขึ้นไป ประมาณครึ่งนึงจะเคยเป็นโรคงูสวัด
ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกัน วิทยาลัยจักษุแพทย์และสมาคมแพทย์ผิวหนังของสหรัฐอเมริกา (The American Academy of Ophthalmology และ The American Dermatological Association) แนะนำว่า
ทุกคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดค่ะ
(เมื่อก่อนแนะนำที่อายุ 60 ปี, ประเทศไทยแนะนำที่ 60 ปี)
หมอแนน
รศ.พญ.มัญชิมา มะกรวัฒนะ
อ้างอิง: https://www.aao.org/newsroom/news-releases/detail/leading-physician-organizations-call-shingles-vacc